วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ครบ ๑ปี วันมรณภาพ


     เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา พระอธิการสมนึก ฐาตุกาโม เจ้าอาวาสวัดช่องลม และคณะกรรมการดำเนินงาน ได้จัดให้มีพิธีทำบุญวันมรณภาพของ ท่านพระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม  ซึ่งคณะศิษย์และประชาชนที่ให้ความเคารพนับถือฯ ได้ถวายสมญานามว่า "บูรพาจารย์" แห่งวัดช่องลม



                     ช่วงเช้า พระสงฆ์ ๒๐ รูป สวดทักษิณานุปทาน    จากนั้น พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๒๐รูป
สวดเจริญพระพุทธมนต์  อาทิ   พระเทพสุธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี(ธรรมยุติ)    เจ้าอาวาสวัดเขา
บางทรายฯ      พระราชสิทธิวิมล รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดใหญ่อินทารามฯ
หลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ฯลฯ       ในการนี้ พระอธิการสมนึก ฐาตุกาโม และคณะกรรมการดำเนินงานวัดช่องลมฯ ได้มอบภาพถ่ายสี (หันข้าง) แก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมถวายปัจจัยไทยธรรม และผู้ร่วมทำบุญถวายฯ  รวมทั้งมอบพระผงรูปหลวงพ่อแดง รุ่นนั่งบัว สำหรับพุทธศาสนิชนที่มาร่วมงานฯ และผู้ร่วมออกร้านอาหาร


    ช่วงบ่าย...  เป็นพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน และถวายทุนการศึกษาแก่ พระสงฆ์ด้วย  โดยมี อุบาสิกาจำรัส กงทอง เป็นตัวแทนถวายทุนและมอบทุนดังกล่าว   โดยมีเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน คณะกรรมการดำเนินงานและผู้ร่วมงานฯเป็นสักขีพยาน 

 

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

อนุสรณ์จากลูกศิษย์...หลวงพ่อแดง

             ในพิธีการสวดอภิธรรม พระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) จำนวน ๑๒๑ วันนั้น  มีของที่ระลึก หรือ สิ่งมงคลที่เจ้าภาพ นำมาแจกจ่ายแก่ ท่านผู้มาร่วมงานหลายรูปแบบ    กระผมจึงขออนุญาตฯ ท่านเจ้าของวัตถุมงคล มารวบรวมมาไว้ ณ ที่นี้ ครับ    (ซึ่งอาจจะไม่ครบถ้วน เช่น พระปิดตา พระผง หรือเหรียญรุ่นอื่นๆ ซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถนำภาพและรายละเอียดนำเสนอได้ครบถ้วนนั้น  ต้องขออภัย นะครับ)

พระกริ่ง  ที่ทางวัดช่องลมฯ มอบให้กับผู้ที่เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมฯ ถวายหลวงพ่อแดง
และ เหรียญครบ ๗ รอบ เนื้อทองแดง  แจกให้กับผู้ที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ

หนังสือที่ระลึก ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ  (เจ้าคณะตำบลบ้านโขดดำเนินการจัดพิมพ์ขึ้น)
ซึ่งแจกให้กับสาธุชนที่มาร่วมพิธีฯพร้อมๆกับเหรียญครบ ๗ รอบ (ด้านบน) ด้วย

รูปหล่อหลวงพ่อแดง (องค์เล็ก) ซึ่ง พระคนสนิท (อดีตเลขาส่วนตัว หลวงพ่อแดง) ได้จัด
สร้างขึ้นในโอกาส ๑๐๐ วัน แห่งการมรณภาพ ของหลวงพ่อฯ

พระผง รูปหลวงพ่อแดง(หันข้าง) นำออกแจกจ่ายแก่ ผู้ร่วมพิธีเคารพศพฯ ครบ ๕๐วัน  

ของที่ระลึก ชุดแรกๆ ที่ศิษยานุศิษย์ ที่เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมฯ
นำมาแจกจ่ายแก่ผู้มาฟังสวดอภิธรรม ซึ่งเป็นที่ต้องการของหลายท่านมาก
เพราะ "หลวงพ่อแดง" ไม่นิยมการถ่ายภาพ ในอิริยาบถต่างๆกัน เช่นนี้

ภาพถ่ายที่ระลึก ที่ศิษยานุศิษย์ใกล้ชิด นำแจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงานสวดอภิธรรม
ภาพถ่ายชุดนี้ งดงามมาก เพราะมีผู้นำไปเข้ากรอบพร้อมแขวนอยู่หลายท่านเลยทีเดียว
โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้า...ชื่นชมภาพถ่ายล็อคเก็ต ชุดนี้ ของท่านมาก

หนังสือ พร้อมภาพถ่าย ที่ข้าพเจ้าจัดทำขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับท่านที่ร่วมพิธีเคารพศพฯ
ครบ๕๐ วัน ของหลวงพ่อแดง


ภาพถ่ายหลวงพ่อแดง ที่ข้าพเจ้าจัดทำขึ้น ในคืนสวดอภิธรรมฯ
โดย "ตระกูลจิรสุวรรณ" เป็นเจ้าภาพ

ภาพถ่ายหลวงพ่อแดง บนใบโพธิ์สีทอง  ข้าพเจ้าจัดทำขึ้นให้กับท่านผู้มีเกียรติที่มา
ร่วมฟังสวดฯในคืนที่ลูกหลาน คุณแม่ลออ นาคปฐม  (คุณยายของข้าพเจ้า) เป็นเจ้าภาพ

ภาพถ่ายหลวงพ่อแดง บนใบโพธิ์สีทอง ข้าพเจ้าจัดทำขึ้นให้กับท่านผู้มีเกียรติที่มาร่วม
ฟังสวดอภิธรรมฯในคืนที่ คุณแม่ (บุตรสาวหลวงพ่อฯ) เป็นเจ้าภาพ


หนังสือที่ระลึก ภายในประกอบด้วยประวัติและเรื่องราวชีวประวัติของ "หลวงพ่อแดง"  พร้อมภาพประกอบ  ซึ่งข้าพเจ้าตั้งใจเรียบเรียงและจัดพิมพ์ เข้าเล่มด้วยตนเอง จำนวน ๒,๕๐๐ เล่ม เพื่อมอบให้กับผู้ที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ  นอกจากนี้...ยังจัดทำเพิ่มเติม เพื่อถวายแด่ พระสงฆ์ในวัดช่องลมในพิธีเก็บอัฐิ และถวายภัตตาหารเช้าด้วย
เข็มกลัดที่ระลึกพิธีพระราชทานเพลิงศพฯ  (ภาพซ้าย) ข้าพเจ้าจัดทำขึ้น เพื่อหารายได้
(หลังหักค่าใช้จ่าย) ร่วมสมทบการสร้างวิหาร ที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อแดง 
ซึ่งได้นำเงินถวายแด่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว  เป็นจำนวนเงิน ๒๓,๐๐๐ บาท

เหรียญเสมาเนื้อทองแดง (ภาพขวา)  ที่ข้าพเจ้าจัดสร้างขึ้น  และใส่ลงในหีบที่บรรจุสังขารของหลวงพ่อแดง ในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ  ซึ่งข้าพเจ้าได้มอบให้กับท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน จำนวน ๓ เหรียญ  เพื่อนำไปประมูล นำรายได้เข้าสมทบทุนการสร้างวิหารฯ ต่อไป

ข้าพเจ้า...ในนามของ"ครอบครัวจิรสุวรรณ"  ขอกราบนมัสการพระคุณเจ้าฯ  และขอขอบพระคุณศิษยานุศิษย์และสาธุชนทุกท่าน ที่ได้ร่วมแสดงความอาลัยและอุทิศบุญกุศล
ในรูปแบบและวิธีการต่างๆ แด่
"ท่านพระครูวิสุทธสีลากร"  หรือ "หลวงก๋ง...ของข้าพเจ้า" 

หากเนื้อหาในบทความนี้ มีข้อบกพร่องประการใด  ข้าพเจ้ากราบขออภัยมา ณที่นี้

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รูปเหมือนหลวงพ่อแดง (องค์ใหม่)

           รูปเหมือนไฟเบอร์กลาส หลวงพ่อแดง
แบบจำลองการประดิษฐานที่ข้าพเจ้าออกแบบขึ้น เพื่อใช้ประกอบในการนำเสนอบทความ


          เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา   ที่ประชุม คณะสงฆ์  คณะกรรมการ(ชุดเก่า) ตัวแทนครอบครัวหลวงพ่อฯ  นักการเมืองท้องถิ่น  ผู้นำหมู่บ้าน และตัวแทนชาวบ้าน  มีมติให้จัดสร้าง "รูปเหมือนไฟเบอร์กลาส  พระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) ขนาดเท่าองค์จริง"  จำนวน ๑ องค์   โดยมอบหมายให้ ครูปฐมศักดิ์ จิรสุวรรณ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน


   และเมื่อวันพฤหัสบดีที่  ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๓  เวลา ๑๔.๐๐น. โดยประมาณ  บริษัทผู้จัดทำได้นำส่ง "รูปเหมือนไฟเบอร์กลาสฯ"
ถึงที่วัดช่องลม  และนำประดิษฐาน (ชั่วคราว)     ณ ศาลาสหบุญ
วัดช่องลมชลบุรี       โดยค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างเป็นจำนวนเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท(ห้าแสนบาทถ้วน)        

  ศาลาสหบุญเป็นสถานที่ทำบุญในวันพระ   ประชาชนสามารถกราบสักการะได้สะดวก  และยังมีรูปเหมือนหลวงพ่อแดง (เนื้อทองเหลือง) ซึ่งประกอบพิธีเททอง ในพิธีทำบุญครอบ ๑๐๐ วัน  ประดิษฐานอยู่ด้วย เช่นกัน





          
จากการสรุปเบื้องต้น...   รูปเหมือนไฟเบอร์กลาส พระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) นี้  จะประดิษฐานในวิหารของหลวงพ่อแดง  ที่ทางวัดช่องลมจะจัดทำขึ้น ในอนาคต  

วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย...

...ข้อเท็จจริง...
เกี่ยวกับการจัดสร้างวัตถุมงคล
รุ่น เหรียญเสมาลงยาและรูปเหมือนบูชา ขนาด ๕นิ้ว
ของ พระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) วัดช่องลม ชลบุรี



          โครงการจัดสร้างวัตถุมงคลฯดังกล่าว เริ่มต้นขึ้น ภายหลังการจัดงานฉลองอายุครบ ๙๑ปี  ในปลายเดือนมกราคม ๒๕๕๒ ของท่านพระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) ซึ่งจากนี้ข้าพเจ้าขอเรียก "หลวงก๋ง" 

           ช่วงเดือนกุมภาพันธ์  ข้าพเจ้าและครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่บ้านซอย๔ แล้ว    ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ข้าพเจ้านั่งคุยกับ คุณยายอรุณี จิรสุวรรณ หรือ ยายเล็ก (น้องสาวคนเล็กของหลวงก๋ง)  เมื่อเอ่ยถึงเรื่องวัตถุมงคลของหลวงก๋งขึ้นมา  เปรียบเสมือนการจุดประกาย ของข้าพเจ้า

ยายเล็ก : ทำไมโด่งไม่ทำพระ ของหลวงก๋งซักรุ่นนึงล่ะ   ทำเก็บไว้เพราะบ้านเราไม่มีใคร
                  เคย  ทำเลย

ข้าพเจ้า : ก็น่าสนใจทำอยู่นะครับ  จัดสร้างมาในนามของตระกูลจิรสุวรรณ ซักรุ่นก็ดีนะยาย 
                  ให้คนในตระกูลมีไว้บูชาเวลาหลวงก๋งไม่อยู่แล้ว  

          จากวันนั้น... ข้าพเจ้าก็นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อนๆว่า "ข้าพเจ้าต้องการทำวัตถุมงคลของหลวงก๋ง ให้กับสมาชิกในตระกูลได้มีไว้สักการะบูชา"   ข้าพเจ้าและเพื่อนๆ จึงไปเกริ่นกับญาติผู้ใหญ่ที่ถนัดในเรื่องการจัดสร้างพระเครื่อง
        แต่ในเบื้องต้น  ข้าพเจ้าและเพื่อนดำเนินการโดยลำพัง โดยไปติดต่อเจรจากับโรงหล่อพระแถบพนัสนิคม    แต่การแกะแบบแม่พิมพ์ ออกมาไม่เป็นที่ถูกใจ (ใบหน้าไม่เหมือนหลวงก๋ง) ข้าพเจ้าจึงยอมเสียค่าจ้างทำแบบ
          หลังจากนั้น ข้าพเจ้าและเพื่อนๆ จึงนำเรื่องปรึกษาญาติผู้ใหญ่ ที่สนิทสนมกันอีกครั้ง   ครั้งนี้ ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากท่านผู้รู้ฯ ในชมรมพระเครื่อง   ซึ่งได้ช่วยแนะนำแนวทางและแนวคิดหลายอย่าง  พอสรุปได้ดังนี้

     ๑. จัดสร้างเป็นรุ่นเหรียญเสมาลงยา และรูปเหมือนบูชา  เพรายังไม่มีวัตถุมงคลประเภทนี้เลย 
     ๒. วัตถุมงคลรุ่นนี้จะใช้ชื่อว่า "รุ่นเรียญเสมาลงยาและรูปเหมือนบูชา" โดยตระกูล จิรสุวรรณ เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง
     ๓. ทางผู้ใหญ่ฯ จะเป็นหลักในดำเนินการติดต่อประสานงานกับ โรงงานผู้ผลิต
     ๔. ข้าพเจ้าและทีมงาน (ทางครอบครัวและเพื่อนๆ) จะดำเนินการเรื่องการขออนุญาตกับ หลวงก๋ง
เมื่อมีการสรุปรูปแบบของวัตถุมงคลและจำนวนที่จัดสร้างแล้ว  ข้าพเจ้าจึงนำเรื่องเข้าปรึกษากับหลวงก๋งที่กุฎิ โดยสรุปเหตุการณ์ย่อๆได้ ดังนี้

ภาพวันที่เข้าไปกราบขออนุญาตหลวงก๋ง จัดสร้างวัตถุมงคล

ข้าพเจ้า :  โด่งจะขอทำพระหลวงก๋ง  เป็นในนามของตระกูลจิรสุวรรณ ซักรุ่นนะครับ
หลวงก๋ง : มึงจะทำแบบไหน  แล้วจะไปทำยังไง  ที่ไหน
ข้าพเจ้า : ทำเป็นเหรียญเสมาลงยา กับ รูปเหมือนบูชา หน้าตัก ๕นิ้ว  (ข้าพเจ้าส่งภาพร่างวัตถุ 
                  มงคลให้ท่านดูด้วย)
หลวงก๋ง :  จะดีเหรอวะ  มันแพง มึงอย่าทำเลยมึงจะไหวเหรอ   มันหลายบาทนะ
ข้าพเจ้า : โด่งไปคุยกับทางโรงงานแล้ว  ค่าจ้างทำก็พอไหวอยู่   แล้วรายได้ก็จะมาถวายกับ
                  หลวงก๋งด้วยครับ เลยมาขออนุญาตกับหลวงก๋งก่อน
หลวงก๋ง : มึงรู้มั๊ย...  ทำออกมาแล้วหน้าไม่เหมือนกูเนี่ย ขายไม่ออกเลยนา  ต้องไปให้..........
                  มันดูด้วยนะ  ถ้า.......มันบอกว่าเหมือน  รุ่นนั้นก็ไปได้ดี    เออ...มันก็แปลกนา
                 เอาหยั่งงี้... มึงจะมาถ่ายรูปกูวันไหนก็บอกมาแล้วกัน  เค้าต้องถ่ายหลายๆมุม 
ข้าพเจ้า :  ครับ  เอาเป็นว่า  โด่งจะทำหนังสือขออนุญาต มาให้หลวงก๋งเซ็นต์ พร้อมๆกับถ่าย
                รูปไปเลย  แล้วจะเอาพระตัวอย่างจากโรงงานมาให้หลวงก๋ง ดูก่อน ล่วงหน้า
หลวงก๋ง : ไม่ต้องเอามาหรอก  มึงไปจัดการทำมาให้เสร็จ  แล้วยกมาไว้ที่กุฎิกูเลย   เดี๋ยวกูทำ
                ให้เสร็จแล้วกูจะเรียกให้มาเอาไป   ไว้ในนี้ไม่หายหรอก 

หนังสือขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล

            ผ่านไป ๑ สัปดาห์  วันพุธหลังเลิกงานช่วงค่ำ  ข้าพเจ้าและน้องชาย เตรียมเอกสารและกล้องถ่ายรูปไปที่กุฎิหลวงก๋ง  ท่านกำลังสักการะพระภายในบริเวณวัด  เมื่อเห็นข้าพเจ้าท่านจึงเดินตรงมาหาและเตรียม ให้น้องชายหยิบจีวรที่พาดไว้มาห่มอย่างเร็ว  เพื่อให้ถ่ายรูป ตามที่นัดไว้  ในวันนั้น... ร่างกายท่านดูผ่ายผอมไปมาก มีอาการอ่อนเพลียให้เห็นอย่างชัดเจน   ท่านยังบ่นกับข้าพเจ้าและน้องชายว่า 
 "...เหนื่อย...พักนี้กินไม่ค่อยลง..."

หลวงก๋งนั่งให้ถ่ายภาพเพื่อเป็นแบบในการจัดสร้างวัตถุมงคล
จะสังเกตุเห็นได้ว่า ท่านซูบผอมลงมากกว่าวันที่ข้าพเจ้า เข้าไปกราบ
เพื่อขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล

            แสงแฟลชจากกุฎิ  ทำให้หลวงพี่และลูกศิษย์ของหลวงก๋ง ที่นั่งคุยอยู่ข้างๆ นั้น  ทำให้พอรู้ได้ว่าข้าพเจ้ามาถ่ายภาพหลวงก๋งเพื่อจะนำไปเป็นแบบ สร้างวัตถุมงคล  ขาพเจ้ายังจำได้ว่า  ลูกศิษย์คนสนิทท่านหนึ่ง ที่มาปรนนิบัติหลวงก๋งทุกเย็น  ได้เดินขึ้นมายกมือไหว้หลวงก๋ง และขอถ่ายภาพคู่กับท่านด้วย
ขั้นตอนการถ่ายภาพเสร็จสิ้นลง  ข้าพเจ้ามอบเอกสารขออนญาตฯให้แด่ท่าน   แล้วอ่านเนื้อความให้ท่านฟัง    จากนั้นหลวงก๋ง ก็ลงลายมือชื่อในเอกสารนั้นฯ  

            " มึงจะทำเสร็จเมือ่ไหร่   ทันก่อนเข้าพรรษามั๊ย  เสร็จแล้วก็ยกมาที่กุฎิกูนี่แล้วกูจะเรียกมาเอาเอง"  
            " เอ๊า...เสร็จแล้ว มึงกลับกันไปเถอะ กูจะพักละ   เหนื่อย......."     สิ้นเสียงหลวงก๋ง ข้าพเจ้าและน้องชาย จึงกราบนมัสการลากลับบ้าน 

หุ่นต้นแบบรูปเหมือนบูชา ขนาด ๕นิ้ว 
(ก่อนมีการปรับแต่งในบางส่วน)

             เมื่อเอกสารขออนุญาตฯเสร็จสิ้นแล้ว  แต่ภาพถ่ายที่ได้มายังใช้ไม่ได้เท่าที่ควร  ทางทีมดำเนินงานจึงปรึกษากันว่า จะใช้ภาพต้นแบบ "เหรียญนั่งพาน" มาประกอบกับภาพถ่ายครั้งนี้   การดำเนินงานแต่ละขั้นตอนเป็นไปอย่างรีบเร่ง  เพื่อให้งานเสร็จทันก่อนวันเข้าพรรษา  ตามที่หลวงก๋งเอ่ยถามไว้

ต้นแบบเหรียญเสมาลงยา  ซึ่งมิใช่เหรียญปั๊มสำเร็จรูป (ยกเว้นเนื้อทองแดง)
แต่เป็นการนำมาประกอบทีละชิ้น ด้วยความประณีต
  
มีนาคม ๒๕๕๒ 

           หลวงก๋งสุขภาพทรุดโทรมลง เดินไม่สะดวก  ฉันได้น้อย  มีอาการปวดกระดูกบริเวณด้านหลัง   จนต้องเข้ารับการเช็คสุขภาพที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา
           ถัดจากนั้นประมาณ สองสัปดาห์   สุขภาพของท่านยังไม่ดีขึ้น แพทย์ที่โรงพยาบาลนัดตรวจอีกครั้ง  และเอ็กซเรย์โดยละเอียด  ผลการเอ็กซเรย์ พบสิ่งผิดปกติบริเวณปอด ที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว  แพทย์จึงขอให้พักรักษาอาการที่โรงพยาบาลก่อน  เพราะกลัวจะมีเชื้อโรคแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น   แต่ท่านก็อยู่ที่โรงพยาบาลเพียงแค่คืนเดียว  ก็ต้องกลับวัด ตามความประสงค์ของท่าน 
           ครั้งนี้... พระลูกวัดคนสนิท  ข้าพเจ้า พี่ชายและน้องชาย... ต้องผลัดเปลี่ยนกันไปนอนเฝ้าอาการหลวงก๋งที่กุฎิ  การรักษาตัวด้วยยาที่แพทย์จัดมาให้นั้น ยังไม่ช่วยให้สุขภาพของหลวงก๋งฟื้นคืนกลับมาได้ดังเดิม  จนวันหนึ่ง...ลูกศิษย์ คนสนิทอีกท่าน มากราบเยี่ยมและพบเห็นหลวงก๋งนอนป่วยหนัก  ท่านจึงขอรับผิดชอบการรักษาและการประสานงานกับนายแพทย์  ในวันนั้น... ลูกศิษย์ท่านดังกล่าว ขอนำหลวงก๋งไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล   ผลการวินิจฉัยเบื้องต้น พบว่า... หลวงก๋งมีอการติดเชื้อที่ปอดอย่างรุนแรง และปอดข้างหนึ่งใช้การไมได้แล้ว  จึงต้องนำเข้าห้องปลอดเชื้อ ซึ่งเป็นเขตควบคุมพิเศษ

เมษายน ๒๕๕๒

          หลวงก๋งอาการดีขึ้น  จึงกลับมารักษาตัวที่วัดช่องลม  แต่ต้องไปรับยาและตรวจสุขภาพกับแพทย์เป็นครั้งคราว   ในคืนที่ข้าพเจ้านอนเฝ้าท่านและได้คุยกันบ้างนั้น  ท่านจะเอ่ยถามถึง   "วัตถุมงคลที่ข้าพเจ้าขออนุญาตฯ จัดสร้างเสมอๆ"

กรกฎาคม ๒๕๕๒

          ข้าพเจ้าขอตัดตอนมาถึงวันที่วัตถุมงคลเสร็จและเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธา จองไว้บูชา   ช่วงนั้นหลวงก๋งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี มาได้ระยะหนึ่งแล้ว   พระลูกวัด... มีการจัดเวรสลับสับเปลี่ยนกันมาดูแลทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน   
          ช่วงค่ำในวันหนึ่ง หลังเลิกงาน.... ข้าพเจ้าเข้ากราบเยี่ยมท่าน และได้นำวัตถุมงคลทั้งเหรียญเสมาลงยา และ รูปเหมือนบูชา ไปให้ท่านดูที่เตียง

ข้าพเจ้า : พระทำเสร็จแล้วครับ  (ข้าพเจ้าให้ท่านดูใกล้ๆ ทุกๆแบบ)  ตอนนี้เค้าเปิดให้สั่งจอง
                  และเค้าก็สั่งจองกันหมดแล้ว  
หลวงก๋ง : อ๊าว...หมดเลยเหรอ  มึงไม่เหลือเก็บไว้มั่งเหรอ  
ข้าพเจ้า : ไม่หมดครับ  ขอทางบ้านเรา (ตระกูลจิรสุวรรณ) ก็แยกออกมาจากที่เค้าสั่งจอง   
                  รอหลวงก๋งหายป่วย แล้วกลับกุฎิก่อนถึงจะนำไปไว้ที่กุฎิ ตามที่สั่งโด่งไว้  
หลวงก๋ง : เออ...เอ็งไม่เก็บไว้มั่งเหรอ  ให้เค้าไปหมดเลยเหร๊อะ  
                   แล้วหมดไปกี่ตังค์ เนี่ย
ข้าพเจ้า :   (ข้าพเจ้าบอกจำนวนค่าใช่จ่าย......... ให้ท่านทราบ )   สวยไหม...ถูกใจหลวงก๋งไหม 
หลวงก๋ง : เออ...สวย   (ท่านจับดูเหรียญเสมา   และเงยหน้าดูรูปเหมือน บูชา ที่ข้าพเจ้าถือไว้)
ข้าพเจ้า : หลวงก๋งต้องฉันข้าวเยอะๆ  ทำตามหมอเค้าบอกนะ  จะได้หายไวๆ  จะได้กลับวัด
                  เดี๋ยวจะเข้าพรรษาแล้ว  
หลวงก๋ง : แหม่....กูอายุป่านนี้แล้ว  จะกินได้เยอะคงไม่ไหว  จืดชืดไม่ถูกปาก   (จากนั้นท่านก็บอกให้หยิบนมเปรี้ยวให้ท่านฉัน)

เหรียญเสมาลงยา เนื้อทองคำ เนื้อเงินหน้าทองคำ เนื้อเงินหน้าเงิน
เนื้อนวโลหะหน้าเงิน และเนื้อทองแดง เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว

          ข่าวอาการป่วยของหลวงก๋ง แพร่สะพัดไปในวงกว้างขึ้น.... มีคำพูด  ข่าวลือต่างๆนาๆ  จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เหตุที่ข้าพเจ้าบอกเช่นนี้เพราะข้าพเจ้าได้ติดตามอาการของหลวงก๋งมาโดยตลอด  แม้มิได้ไปนอนเฝ้าทุกคืน แต่ก็จะถามจากพระที่ไปเฝ้าบ้าง  คามจากแพทย์และพยาบาลที่รับผิดชอบ  Case ของท่านบ้าง  ยามว่างจากการทำงานช่วงกลางวัน หรือบ่าย  ก็จะโทรไปถามบ้างเป็นบางวัน
          จากข่าวลือ ที่มีทั้งจริงและไม่จริงนั้น  มีผลกระทบต่อ"วัตถุมงคล" รุ่นที่ ตระกูลจิรสุวรรณ จัดสร้างเป็นอย่างมาก   หายท่านเกรงว่า ท่านจะอธิษฐานจิตไม่ได้ หรือ อาจจะละสังขารเสียก่อน          แต่ก็เป็นธรรมดาของผู้ที่เสียเงินค่าจองแล้ว  ย่อมต้องการได้รับของ  แต่บางท่านที่มีความเคารพ ศรัทธาหลวงก๋ง อย่างมากล้น   ก็กล่าวว่า  "จะได้ปลุกเศก หรือไม่ได้ปลุก ถ้าเป็นของหลวงพ่อแดง ก็พอใจแล้ว ก็นับถือทั้งนั้น"  ซึ่งข้าพเจ้า ในฐานะหลานชาย โดยส่วนตัวแล้วก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

รูปเหมือนบูชา ขนาด ๕นิ้ว เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วภายในบรรจุ ตะกรุด จีวร และเกศาหลวงพ่อแดง
นอกจากนี้ยังมีพระธาตุคำข้าว อยู่ภายในด้วย และมีเพียง ๑๐ องค์เท่านั้น ที่สลักนามสกุลจิรสุวรรณ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒
เวลา ๑๙.๐๐ น. โดยประมาณ

          ท่ามกลางกระแสกดดันและข่าวเกี่ยวกับการป่วยของหลวงก๋ง  ข้าพเจ้าไปกราบเยี่ยมหลวงก๋ง หลังเลิกงาน  และเอ่ยถามท่านว่า
ข้าพเจ้า : หลวงก๋ง  พระที่โด่งทำไว้ คนที่จ่ายเงินจองพระไว้ เค้าถามหาพระกันแล้ว  ถ้าโด่งยกมาให้ที่นี่ (ห้องพัก ของโรงพยาบาล) ได้ไหมครับ
หลวงก๋ง : (ท่านหลับตา นิ่งเงียบสักครู่)  วันนี้วันอะไรวะ
ข้าพเจ้า : วันพฤหัสที่ ๒๓ กรกฎา ครับ พรุ่งนี้วันศุกร์  แล้วก็เสาร์
หลวงก๋ง : พรุ่งนี้...มึงยกมานี่ได้มั๊ย    มาแต่เช้ามาให้กูที่เนี่ย  ได้มั๊ย
ข้าพเจ้า : เป็นวันเสาร์ได้ไหมครับ  ให้โด่งยกมาให้หลวงก๋ง  วันเสาร์แต่เช้า นะครับ 
หลวงก๋ง : เออ มึงยกมา แล้วบ่ายๆ มึงมาเอากลับไป
                 ของเยอะมั๊ย....   ของเอ็งคนเดียวใช่ไหม
ข้าพเจ้า : ของโด่งคนเดียวครับ  ก็ไม่เยอะมากเพราะทำจำนวนน้อย  ยกได้สะดวกเพราะ
                โรงงานเค้าใส่กล่องมาเรียบร้อย

               ระหว่างการสนทนาข้าพเจ้าก็ชวนท่านคุย และกายภาพให้ท่านไปด้วย   สักพัก...ข้าพเจ้าก็ย้อนกลับมาถามเรื่อง การอธิษฐานจิตวัตถุมงคลอีก  ท่านก็ย้ำเหมือนเดิมว่า...ให้นำมาให้ท่านแต่เช้าแล้วมารับกลับไปในตอนบ่าย  วันนั้น ข้าพเจ้า...ถามซ้ำๆกับท่าน ๓-๔ ครั้ง   ในช่วงเวลาที่ห่างกัน   ทำให้มั่นใจว่าขณะที่สนทนากัน  ท่านก็ยังคงมีสติสัมปชัญญะ ดีอยู่   มิได้มีอาการข้างเคียงจากยาที่ใช้รักษาแต่อย่างใด

               ในวันศุกร์  ทีมดำเนินงาน  รีบเดินเรื่องขออนุญาตผู้ดูแลอาคาร หัวหน้าพยาบาลและแพทย์ผู้ดูแล อย่างรวดเร็วจนได้รับการอนุมัติจากท่านผู้เกี่ยวข้อง  ซึ่งต้องขอกราบขอพระคุณทุกท่าน
   

วันเสาร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒
เวลา ๐๗.๐๐ น.โดยประมาณ

               เมื่อบุรุษพยาบาล เช็ดตัวและให้ท่านฉันอาหารเช้าและยาเรียบร้อยแล้ว  หลวงก๋ง ก็จะนอนพักผ่อน ขณะนั้น เรารีบเตรียมสถานที่อย่างรวดเร็ว และมิส่งเสียงดังรบกวนท่าน  บางส่วน... ก็รับผิดชอบไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วบริเวณโรงพยาบาล   บางส่วน...ลำเลียงวัตถุมงคลเข้ามาไว้ในห้อง  นอกจากทีมดำเนินงานแล้ว  ตัวแทนในตระกูลจิรสุวรรณ ที่ไปร่วมพิธีด้วย ก็ คุณยายอรุณี จิรสุวรรณ (น้องสาวหลวงพ่อแดง)  แม่ของข้าพเจ้า (ลูกสาวหลวงพ่อแดง) ข้าพเจ้าและน้องชาย   

ภาพหลวงก๋งขณะ ทำพิธีอธิษฐานจิตให้กับวัตถุมงคล
ในภาพ คุณยายอรุณี (น้องสาวหลวงพ่อแดง)และคุณแม่ของข้าพเจ้า(บุตรสาวหลวงพ่อ) และข้าพเจ้า

เวลา ๐๙.๐๐ น. โดยประมาณ

                หลวงก๋งตื่นจากนอนพักแล้ว  ข้าพเจ้าเรียนให้ทราบถึงภารกิจฯ และห่มจีวรให้ท่าน   พร้อมปรับเตียงนอนให้อยู่ในระดับที่ท่านนั่งได้ถนัด  เพราะท่านมีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังและแผลกดทับ  จะนั่งแบบปกติไมได้  
หลวงก๋ง :   มึงเอามาครบแล้วรึยัง    ของมึงคนเดียวใช่ไหม
ข้าพเจ้า : โด่งเตรียมไว้ครบแล้ว  มีพระประธานมาด้วย และไหว้บอกทุกที่ในโรงพยาบาลแล้ว 
หลวงก๋ง : เออ....  (ท่านพยายามเลื่อนมือไปวางที่กล่องวัตถุมงคล  ข้าพเจ้าจึงค่อยๆช่วยจับบือท่านไปวางตรงนั้น)  เอ๊า....(ท่านร้องบอก เหมือนว่าพร้อมจะอธิษฐานจิตแล้ว)

ข้าพเจ้ายืนอยู่หลังพระประธาน ข้างๆเตียงนอน  ท่านหลับตา.....ได้ยินเสียงท่านสวดมนต์เบาๆ  มือวางบนกล่องวัตถุมงคล  บรรยากาศในห้องเงียบสนิท  จนหลายคนในนั้นได้ยินเสียงท่านสวดมนต์เช่นเดียวกับข้าพเจ้า     ประมาณ ๒๐ นาที    ท่านลืมตาขึ้น
  
หลวงก๋ง : เสร็จแล้ว.... (ท่านพูดเบาๆ และสังเกตได้ว่าท่านเหนื่อย)  ข้าพเจ้าปรับเตียงนอน และจัดที่นอนให้ท่านนอนพักสักครู่    ก่อนที่ค่อยๆจะลำเลียงวัตถุมงคลออกจากห้อง

 ที่จริงแล้ว วัตถุมงคลรุ่นนี้ ไม่ควรใช้เวลาในการผลิตเนิ่นนานถึง ๖ เดือน เพราะผลิตจำนวนน้อยและมีดำเนินการจัดสร้างก็มิเคยวางเฉยในทุกขั้นตอน   แต่ด้วยเหตุใด....จึงใช้เวลานานเช่นนั้น ก็ยากที่ข้าพเจ้าจะทำความเข้าใจได้



ขณะกราบนมัสการท่านเจ้าคุณฯ
 ท่านเจ้าคุณวัดโสมนัสฯ กล่าว "วัตถุมงคลนี้แรงมาก" 

       ในวันเดียวกันนั้น  โรงพยาบาลชลบุรี จัดอบรมการปฎิบัติกรรมฐาน (ชื่องานอาจจะไม่ถูกต้อง) โดยมี "พระธรรมวิสุทธิกวี"   (พิจิตรฐิตวัณโณ) เจ้าคณะภาค ๑๖-๑๗-๑๘  เจ้าอาวาสวัดโสมนัส    เป็นวิทยากรในกิจกรรมครั้งนี้ และได้พักอยู่ชั้นบนของตึก    พวกเราจึงมีโอกาสได้กราบนมัสการท่านและสนทนาเกี่ยวกับ   "หลวงพ่อแดง"
สักครู่ใหญ่ๆ    ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้กับวัตถุมงคลฯ   นี้ด้วย
ท่านหยิบเหรียญขึ้นมาและกำไว้ในมือ  สักครูแล้วกล่าวว่า

" หลวงปู่ท่าน (หลวงพ่อแดง) ก็อาวุโสมากแล้ว  แต่จิตท่านก็แรงมากนะ...วัตถุมงคลของท่านเนี่ย "  ท่านเจ้าคุณฯกล่าว

        ท่านเจ้าคุณฯมีโครงการทะนุบำรุงศาสนสถานและศาสนวัตถุฯ  พวกเราจึงร่วมบุญกับท่านฯ จำนวน ๕๐๐๐ บาท    ในนามของ "พระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) เจ้าอาวาสวัดช่องลมชลบุรี"   ข้าพเจ้ากราบเรียนให้หลวงก๋งทราบ  เพื่อให้ท่านจบเงินทำบุญนี้  หลังจากนั้น...จึงนำถวายท่านเจ้าคุณฯ

หลักฐานการโอนเงิน(หลังหักค่าใช้จ่าย) เข้าบัญชีของวัดช่องลม
เป็นจำนวนเงิน สามแสนบาทถ้วน
และ ได้ร่วมถวายเงินค่ารักษาพยาบาลแด่หลวงก๋ง
เป็นจำนวนเงิน ห้าหมื่นบาทถ้วน  โดยมีคุณป้าจำรัส กงทอง เป็นตัวแทนรับมอบ


บทส่งท้าย

        บทความนี้...  ข้าพเจ้ามีจุดประสงค์เพื่อต้องการเผยแพร่ "ข้อเท็จจริง" และ "ที่มา รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง วัตถุมงคลฯ"  ทั้งนี้...เพื่อปกป้องและรักษาเกียรติของพระเถระอาวุโส ของ "ท่านพระครูวิสุทธสีลากร"  ซึ่งท่านมิได้มีโอกาสออกมาพูดอธิบายได้   อีกทั้ง..ยังให้ความกระจ่างแจ้งแก่ท่านที่มีคำถาม หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับวัตถุมงคลรุ่นนี้   ตามที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินได้ฟังมา  เช่น...
     - ทำไมในหนังสือขออนุญาตจัดสร้าง ไม่มีตราของวัดประทับอยู่ฯ
     - พระรุ่นนี้... หลวงพ่อแดงไมได้ปลุกเศก
     - ทรมานพระ นำวัตถุมงคลไปทำพิธีในโรงพยาบาล ในขณะที่ท่านยังป่วย
     - การสร้างรูปเหมือน เป็นต้นเหตุของการมรณภาพ  ฯลฯ    คำตอบ...ของคำถามเหล่านี้  มีอยู่ในบทความข้างต้น อย่างครบถ้วนแล้ว
       

       การเปิดรับจองวัตถุมงคล เป็นหน้าที่รับผิดชอบของ "กลุ่มผู้ร่วมงาน จากชมรมพระเครื่องฯ" แต่เพียงผู้เดียว  ส่วนสมาชิกในตระกูลจิรสุวรรณนั้น มิได้มีอภิสิทธิ์ใดใด วัตถุมงคลที่ร่วมทำบุญฯถวายหลวงพ่อฯ ก็เป็นรูปแบบเดียวกัน

     วัตถุมงคล "เหรียญเสมาลงยาและรูปเหมือนบูชา ขนาด ๕นิ้ว"  ที่ดำเนินการจัดสร้างโดย ลูกหลานตระกูลจิรสุวรรณ นี้  นับเป็น "วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย ของ ท่านพระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี "  อย่างแท้จริง

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประมวลภาพพิธีสวดอภิธรรมศพฯ

    
     พิธีสวดอภิธรรมศพ ท่านพระครูวิสุทธสีลากร (หลวงพ่อแดง) อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม คณะสงฆ์และคณะกรรมการดำเนินงาน ของวัดฯ ได้มีพิธีสวดอภิธรรมฯถวายแด่หลวงพ่อ ทุกวัน โดยเริ่มตั้งแต่
คืนวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๒ เป็นต้นมา เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐-๒๑.๐๐ น. (โดยประมาณ)

     เหล่าศิษยานุศิษย์  หน่วยงาน ข้าราชการ พ่อค้าและประชาชน ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมฯ รวมระยะเวลา ๑๒๑ วัน  โดยมี พิธีพระราชทานเพลิง ในวันอาทิตย์ที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๓ ณ เมรุลอยชั่วคราว  วัดช่องลม ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี 


      ส่วนหนึ่งของพวงหรีด จากหน่วยงานต่างๆ ข้าราชการ นักการเมือง และศิษย์หลวงพ่อแดง ที่นำมาถวายแทนความเคารพ และความอาลัย 
      กระดานรายชื่อเจ้าภาพ สวดอภิธรรมฯถวายหลวงพ่อ  ที่ทางวัดสั่งทำขึ้นเพื่อแสดงให้ทุกท่านได้ทราบกำหนดการต่างๆ ในแต่ละวัน
กระดานฯขนาดใหญ่  จำนวน๔-๕ อัน  เต็มไปด้วยรายชื่อของผู้แจ้งความประสงค์การเป้นเจ้าภาพฯ

       ในบางค่ำคืน... ผู้เป็นเจ้าภาพ ได้เตรียมของที่ระลึกมามอบให้กับท่านผู้มีเกียรติที่มาร่วมฟังสวดอภิธรรมด้วย  เช่น  พระเครื่องหลวงพ่อแดงแบบเหรียญบ้าง และแบบผงบ้าง  ภาพถ่ายหลวงพ่อแดง  หนังสือธรรมมะ  และทางวัด ได้จัดเตรียมพระกริ่งสรงน้ำ (เนื้อเงิน) ของหลวงพ่อแดง มอบให้กับเจ้าภาพเป็นการตอบแทนด้วย

        ผู้ที่มาร่วมฟังสวดฯ มีหลายกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "หลวงพ่อแดง" เป็นที่เคารพศรัทธาของศิษยานุศิษย์และลูกหลานทั่วถึงกันทุกเพศ ทุกวัย  และที่น่าปลาบปลื้มใจอย่างหนึ่ง.... คือ ผู้ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ด้านการจราจร การเสิร์ฟเครื่องดื่ม อาหารว่าง  และการจัดเรียงและเก็บโต๊ะเก้าอี้ พร้อมทั้งเก็บกวาดบริเวณศาลา ที่ร่วมมือ ร่วมแรงกัน อย่างต่อเนื่อง



จากระยะเวลาที่ยาวนานถึง ๑๒๑ นั้น  บางคืนก็มีผู้ร่วมงามแน่นขนัด  บางคืนอาจจะน้อยดูบางตาไปบ้าง  เพราะเจตนาของเจ้าภาพในค่ำคืนนั้นๆ มิได้เชื่อเชิญแขกให้เอิกเกริกมาก   หรือบางครั้งก็มีสายฝยโปรยกระหน่ำลงมา ทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทาง      แต่...ก็ไม่มีค่ำคืนไหนเลย  ที่จะไม่มีการสวดอภิธรรม ถวายแด่ "พระครูวิสุทธสีลากร หลวงพ่อแดง"     (จะยกเว้นการสวดอภิธรรมฯ ในวันสำคัญและวันหยุดนักขัตฤกษ์ใหญ่ๆ เท่านั้น)

สภาสงฆ์จังหวัดชลบุรี  เป็นเจ้าภาพการสวดอภิธรรมฯ
พร้อมได้มอบเงินฌาปณกิจจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งแสนบาทถ้วน)
โดยมี พระสมนึก ฐาตุกาโม รักษาการเจ้าอาวาส(ในขณะนั้น) เป็นตัวแทนรับมอบฯ

ท่านรองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เป็นประธานฯ ในโอกาสที่คณะสงฆ์ในเขตอำเภอเมืองชลบุรี ร่วมเป็นเจ้าภาพฯ

ตระกูลจิรสุวรรณ  (ครอบครัวหลวงพ่อแดง) ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมฯ
บรรยากาศของวันทำบุญ ครบ ๗ วันแห่งการมรณภาพ
ภาพงานทำบุญครบ ๕๐ วัน


ภาพวันทำบุญครบ ๑๐๐ วัน  ซึ่งได้มีการจัดพิธีเททองหล่อรูปเหมือน
"ท่านพระครูวิสุทธสีลากร" (ขนาดเท่าองค์จริง) และพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล
ที่ทางวัดจัดสร้างขึ้น   ในภาพ...พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค ๑๓ และ พระเทพสุธาจารย์
วัดเขาบางทราย เป็นประธานในการเททองและเจริญพระพุทธมนต์




ค่ำคืนสุดท้าย (คืนที่ ๑๒๑)
    
<>
  อัญเชิญร่าง "หลวงพ่อแดง" ประดิษฐาน ณ วิมาน บนเมรุลอยชั่วคราว
ในภาพ...  เจ้าคณะอำเภอเมืองชลบุรี อัญเชิญพัดยศ      เจ้าคณะตำบลบ้านโขด อัญเชิญตราตั้ง
และ หลานชายหลวงพ่อแดง เป็นผู้อัญเชิญกระถางธูป และภาพถ่าย  
จากนั้นเป็น ขบวนของคณะสงฆ์ และ หีบไม้สักทองที่บรรจุร่างของหลวงพ่อ
เวียนรอบเมรุลอยชั่วคราว ๓ รอบ

สองข้างทางเดินของขบวนฯ  อัญเชิญหลวงพ่อแดง  แน่นขนัดไปด้วยศิษยานุศิษย์ และประชาชน  ที่นั่งบ้าง ยืนบ้าง
ต่างพนมมือสาธุ เมื่อขบวนเดินผ่าน  บางท่านก็บันทึกภาพประวัติศาสตร์นี้ไว้ ด้วยกล้องถ่ายภาพ  กล้องจากโทรศัพท์มือถือ
และบางท่าน หลั่งน้ำตาขณะที่นั่งพนมมืออยู่ด้วยเช่นกัน

เพราะเสร็จสิ้นจากพิธีในค่ำคืนนี้
วันรุ่งขึ้น...คือ วันพระราชทานเพลิงศพแล้ว




รอบหนึ่ง  พึงรำลึก  ถึงหลวงพ่อฯ
รอบสอง  น้ำตาคลอ  สุดกลั้นได้
รอบสาม  ยกมือสาธุ  ก่อนลาไกล
โอ้...ร่มไทร  ของศิษย์  นิจนิรันดร์


วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติโดยย่อ

ประวัติโดยย่อ
พ ร ะ ค รู วิ สุ ท ธ สี ล า ก ร
(หลวงพ่อแดง)

อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

        พระครูวิสุทธสีลากร สถานะเดิมชื่อ วิเชียร (แดง) จิรสุวรรณ  เกิดเมื่อ ๑๑ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเมีย
ตรงกับวันพุธที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๒   บิดาชื่อนายจันทร์  มารดาชื่อนางเอี่ยม  จิรสุวรรณ ณ บ้านเลขที่ 30  หมู่  2  ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี  โดยมีพี่น้องร่วมบิดา - มารดา ดังนี้

๑. นายพุฒ (พุฒ) จิรสุวรรณ      ถึงแก่กรรม

๒. นายบุญมี (อ้น) จิรสุวรรณ      ถึงแก่กรรม

๓. นางสาวทองพูน (หนู) จิรสุวรรณ      ถึงแก่กรรม

๔.นายวิเชียร (แดง) จิรสุวรรณ   ต่อมา คือ ท่านพระครูวิสุทธสีลากร

๕. นางสาวทองหยิบ (ต้อย) จิรสุวรรณ      ถึงแก่กรรม

๖. เด็กหญิงไม่ทราบชื่อ (เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก)

๗. นางสาวสุขใจ (สุข)      จิรสุวรรณ

๘. นางสาวอรุณี (เล็ก)      จิรสุวรรณ


การศึกษา

ปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ สำเร็จวิชาประถมศึกษาชั้นปีที่ ๔  ที่โรงเรียนวัดช่องลม ตำบลบางทราย
อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี


รับราชการทหาร

     ปีพุทธศักราช ๒๔๘๒     นายวิเชียร ได้เข้ารับราชการทหาร เป็นพลทหาร สังกัดกองพันนาวิกโยธิน ๒ ฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี ได้เข้าร่วมปฎิบัติการรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา ภายหลังปลดประจำการ จ่าตรี วิเชียร จิรสุวรรณ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณฯ โปรดเกล้าพระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ  (สงครามอินโดจีน) ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔


ครอบครัว

     ภายหลังปลดประจำการฯ จ่าตรีวิเชียร จิรสุวรรณ กลับมาอาศัยที่บ้าน โดยประกอบอาชีพประมงที่บ้านของลุงและป้า ต่อมาได้ไปรับจ้างด้านการประมงที่บ้าน นางเรือน อุดมสวัสดิ์ ปลายสะพานเทพประสาท และสมรสกับ นางสาวลออ นาคปฐม มีธิดา ๑ คน คือ นางมณฑาทิพย์ จิรสุวรรณ



อุปสมบท

     ปี พ.ศ.๒๔๘๘ อุปสมบท ณ วัดช่องลม ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ได้รับฉายา โดยมี

     พระชลธารธรรมวาที (ฮง ปภฺกโร) วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์

     พระมหาประพันธ์ กิตตสาโร วัดกลาง เป็นพระกรรมวาจาจารย์

     พระอธิการขจร วัดช่องลม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

     ปี พ.ศ.๒๔๙๒ สอบได้ นธ.เอก สำนักเรียนวัดช่องลม ตำบลบางทราย
     ปี พ.ศ.๒๕๐๑ สอบได้บาลีปาฎิโมกข์ ของพระคณาธิการจังหวัดชลบุรี
     ปี พ.ศ.๒๕๒๖ รักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาส
                            ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดช่องลม อ.เมือง จ.ชลบุรี

สมณศักดิ์และเกียรติคุณที่ได้รับ

     ปี พ.ศ.๒๕๒๗  พระครูสมุห์ ฐานานุกรมใน สมเด็จพระณาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพ (ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราชฯ)
     ปี พ.ศ.๒๕๓๒  พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ ชั้นโท ราชทินนามที่ พระครูวิสุทธสีลากร
     ปี พ.ศ.๒๕๔๑   พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ ชั้นเอก ที่ราชทินนามเดิม
     ปี พ.ศ. ๒๕๔๘  พระครูสัญญาบัตรเทียบเท่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก
 ที่ราชทินนามเดิม


มรณภาพ

    ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ท่านพระครูวิสุทธสีลากร เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ด้วยวัยที่สูงถึง ๙๑ ปี ทำให้เดินตามปกติไม่ได้  สุขภาพกายและใจถดถอยลง จนต้องเข้ารับการรักษาการอาพาธ ที่โรงพยาบาลระยะหนึ่ง
  
    จนถึงวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๒  เวลา ๑๒.๔๕ น.  ท่านพระครูวิสุทธสีกร (หลวงพ่อแดง) ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต  ณ ห้อง ๒๐๓  ชั้น๓ ตึกสังฆปริณายก (ตึกสงฆ์) โรงพยาบาลชลบุรี  สิริอายุได้ ๙๑ปี ๘ เดือน ๒๓วัน   ๖๕ พรรษา


ลาลับแล้ว...ร่มโพธิ์ทองของปวงศิษย์

    ในวันศุกร์ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๒  เวลา ๑๔.๐๐ น. โดยประมาณ  ได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ศาลาสหบุญ  วัดช่องลม  โดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค ๑๓ วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ เป็นประธานฯ

     พิธีสวดอภิธรรมศพ อุทิศถวายแด่ " ท่านพระครูวิสุทธสีลากร"  มีศิษยานุศิษย์ ข้าราชการ หน่วยงาน ต่างๆ ดำเนินไปอย่างยาวนานถึง ๑๒๑ วัน

    ในวันอาทิตย์ที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๒  กำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ  ท่านพระครูวิสุทธสีลากร  โดยมี พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค ๑๓ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  และ นายเสนีย์ จิตตเกษม  เป็นประธานฝ่ายฆาราวาส

    พิธีฌาปนกิจ (เผาจริง) กำหนดมีขึ้นในช่วงค่ำ  โดยท่านพระเทพสุธาจารย์ วัดเขาบางทราย ชลบุรี  ประธานฝ่ายสงฆ์  นางสาวจำรัส กงทอง (ตัวแทนอุบาสก อุบาสิกาฯ) และนางมณฑาทิพย์ จิรสุวรรณ  (บุตรสาวหลวงพ่อแดง)  ขึ้นทอดผ้าบังสุกุลและวางดอกไม้จันท์ ส่ง"หลวงพ่อแดง" สู่สวรรค์